อันตรายจากแป้งเด็กที่คุณแม่มือใหม่ยังไม่รู้ แป้งเด็กภัยร้ายที่เป็นอันตรายต่อลูกน้อยจริงหรือ คำถามนี้คงคาใจสำหรับคุณแม่หลายท่านที่สงสัยว่าแป้งเด็กทำไมถึงเป็นอันตราย วันนี้เรามาหาคำตอบกันดีกว่าค่ะ
ซึ่งแป้งเด็กที่มีขายตามท้องตลาดทั่วไปถูกผลิตมาใช้สำหรับเด็ก
- เพื่อความหอม
- ความงาม
- ความสดชื่น
แต่คุณแม่รู้หรือไม่ว่าแป้งเด็กที่คุณแม่นำมาใช้ทาตัวให้ลูกน้อยนั้นอาจเป็นภัยเงียบแฝงมากับโรคร้ายแรงได้เพราะในแป้งเด็กมีส่วนผสมที่เรียกกันว่า “สารทัลคัม”
สารทัลคัม ผลิตมากจากแร่หินชนิดหนึ่งที่เรียกว่า ทัลค์ (Talc) หรือแป้งทัลคัม (Talcum Powder) เป็นเกลือแร่ชนิดหนึ่งที่ประกอบไปด้วย
- ธาตุแมกนีเซียม
- ซิลิกอน
- ออกซิเจน
ซึ่งมีคุณสมบัติเพื่อการดูดซับความชื้นและกลิ่นได้ดีทำให้ผิวแห้งลื่นเนียนสารตัวนี้จึงถูกนำมาใช้เป็นส่วนประกอบหลักของแป้งเด็กชนิดต่างๆ นั่นเองค่ะ
สารทัลคัมดังกล่าวหากคุณแม่หรือลูกน้อยสูดดมเป็นประจำร่างกายสะสมสารตัวนี้เป็นระยะเวลานาน อาจทำให้เกิดมะเร็งปอดได้ เพราะสารตัวนี้ ไม่สามารถย่อยสลายไปได้ตามธรรมชาติ หรือจะให้เข้าใจกันง่าย ๆ คือ
เมื่อคุณแม่สูดดมเข้าไปผ่านยังปอดมันก็จะไปสะสมและเกาะที่เซลล์บุผิวปอดนานเข้าจะทำให้ปอดเกิดการอักเสบ ปอดติดเชื้อ และอาจก่อตัวเป็นเนื้องอกหรือกลายเป็นมะเร็งปอดได้ในที่สุดค่ะ
แอดมินจึงอยากแนะนำคุณแม่ทุกท่านให้ใช้แป้งเด็กที่ใช้วัตถุดิบจากธรรมชาติเท่านั้นอย่างเช่น มีส่วนผสมของ
- แป้งข้าวโพด (cornstarch-based powder)
- แป้งข้าวเจ้าบริสุทธิ์ (Rice Starch)
เพราะเป็นสารที่ย่อยสลายได้ และมีโมเลกุลใหญ่ ยากต่อการหายใจเข้าไป ไม่เกิดการสะสมในปอด หรือใต้ร่มผ้า ที่สำคัญไม่ก่อให้เกิดอาการแพ้กับผิวที่บอบบางของลูกอีกด้วยค่ะ
การใช้แป้งเด็กที่เหมาะสมคุณแม่ควรใช้ในปริมาณที่พอดีไม่มากเกินไป เวลาที่คุณแม่จะทาแป้งให้ลูกคุณแม่ควรเทแป้งลงบนฝ่ามือก่อนค่ะไม่แนะนำให้เทใกล้หน้าเด็กหรือเทแรงจนฝุ่นแป้งคลุ้ง เพื่อป้องกันแป้งเข้าจมูกลูกได้ส่วนคุณแม่ท่านใดที่กังวลว่าในบริเวณส่วนที่เป็นข้อพับต่าง ๆ จะเกิดการอับชื้นหากไม่ได้ทาแป้ง
เนื่องจากสภาพอากาศบ้านเราค่อนข้างร้อน ทำให้ลูกมีเหงื่อออกมาเยอะ แนะนำให้คุณแม่ลองใช้ปิโตเลียมเจลลี่ทาลงไปที่บริเวณข้อพับแทนการทาแป้งดูค่ะปิโตรเลียมเจลลี่จะเคลือบผิวของลูกน้อยไม่ให้ความชื้นเกาะอยู่ได้ จนสามารถลดปัญหาดังกล่าวออกไปได้ค่ะ