lady audreyแป้งข้าวคุมมันปกป้องยาวนาน12ชมจากเทคโนโลยีr-micelle

แป้งข้าวสู่ผลิตภัณฑ์ความงามLadyAudreyในรูปแบบแป้งคุมมัน

แป้งข้าวสู่ผลิตภัณฑ์ความงามLadyAudreyในรูปแบบแป้งคุมมัน

แป้งคุมมัน
แป้งคุมมัน

แป้งข้าวสู่ผลิตภัณฑ์ความงามLadyAudreyในรูปแบบแป้งคุมมัน คุณวาทิน วงศ์สุรไกร กรรมการผู้จัดการ บริษัท เนอเชอร์แคร์ จํากัด เล่าถึงที่มาของการเข้ามาสู่ธุรกิจความงามนี้ว่าจุดเริ่มต้นมาจากการต่อยอดความรู้ความเชี่ยวชาญเดิมของครอบครัวบริษัทในเครือ Erawan Brand

ที่อยู่ในอุตสาหกรรมการแปรรูปแป้งมายาวนานกว่า 80 ปี ส่งออกไปขายกว่า 30 ประเทศทั่วโลก มาสู่การพัฒนานวัตกรรมแป้งเด็ก ReisCare ออกสู่ตลาดด้วยจุดเด่นเรื่องการผลิตจากแป้งข้าว

ปราศจากทัลคัม (แร่หินทัลค์ Talc) เนื้อเนียนละเอียด อ่อนโยนต่อผิว ช่วยป้องกันความเปียกชื้นและดูดความมันได้ดี ที่สำคัญสามารถย่อยสลายได้ไม่ตกค้างอยู่ในร่างกายทำให้แป้งเด็ก ReisCare

ได้รับความนิยมเพิ่มสูงขึ้นในหมู่คุณแม่ยุคใหม่อย่างรวดเร็ว

หลายคนอาจจะงงๆ ไม่เคยได้ยิน ขออธิบายตรงนี้เลยแล้วกันว่าแป้งข้าวมีคุณสมบัติอะไรบ้าง?อย่างแรกเลยคือเป็นผลิตภัณฑ์ที่เหมาะสำหรับผิวแพ้ง่าย เพราะเป็นนวัตกรรมจากธรรมชาติเหมาะสำหรับใช้ควบคุมและดูดซับความมัน

เพราะคุณสมบัติของแป้งข้าวจะดูดซับความมันได้ดีกว่าแป้งทั่วไป  เพราะมีโมเลกุลเล็กกว่าทัลคัมโดยแป้งข้าวมีคุณสมบัติทางเคมีที่จะช่วยดูดซับน้ำมันที่ซึมออกจากผิว แต่สามารถที่จะปล่อยให้น้ำระเหยออกจากผิวได้อย่างธรรมชาติ เลยสามารถคุมมัน แถม ไม่ต้องกังกลเรื่องการอุดตัน!! ไม่ผสมน้ำหอม !! 

แป้งแบรนด์นี้เค้าบอกมาชัดเจนเลยค่ะว่าเหมาะกับคนผิวมัน หรือผิวผสมค่ะ หากใครผิวมันจัดเต็มแนะนำให้ใช้แป้งอัดแข็งลงได้เลย เพราะเจ้าตัวนี้เป็นแป้งผสมรองพื้นอยู่แล้ว และใช้แป้งฝุ่นปัดเบาๆ บริเวณทีโซนนะคะ

เมื่อธรรมชาติหลอมรวมเข้ากับเทคโนโลยีสมัยใหม่ก่อกำเนิดเป็น Lady Audrey ผลิตภัณฑ์แป้งเครื่องสำอางจากข้าวที่เหนือกว่ามอบสัมผัสสู่ผิวอันเนียนนุ่ม เนรมิตผิวในแบบอุดมคติได้อย่างแท้จริง

ซึ่งแป้งที่อยากจะแนะนำก็คือแป้งฝุ่นสำหรับเซ็ตรองพื้นกับแป้งฝุ่นคุมมัน

ซึ่ง “คุณสมบัติ” ของแป้งข้าวและเทคโนโลยี R-Micelle นอกจากจะมาทดแทนแป้งทัลคัมแล้ว ยังมีคุณสมบัติที่ดีกว่าในหลายๆ ด้าน ไม่ว่าจะเป็นความเนียนละเอียดของเนื้อแป้ง

การดูดซับความมัน การป้องกันความเปียกชื้น และความอ่อนโยนต่อผิวที่แพ้ง่าย ตรงนี้เองที่ตอบโจทย์เทรนด์ Beauty&Healthy ของผู้บริโภคในปัจจุบันรวมไปถึงการปรับภาพลักษณ์แบรนด์

ทั้งโลโก้ สี ดีไซน์แพ็คเกจจิ้งทุกอย่างให้น่าใช้น่าโชว์มากขึ้น พูดง่ายๆ คือถือแล้วดูพรีเมี่ยม ตอบโจทย์ด้าน Emotional ของผู้บริโภคได้เป็นอย่างดี